บริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่นักลงทุนเพื่อสร้างธุรกิจที่เติบโตและได้ผลตอบแทนอย่างยั่งยืนด้วยการดำเนินการทั้ง 5 พันธกิจหลัก คือ การเข้าถึงอุดมการณ์เดียวกันทางธุรกิจ การมีเงินทุนและทีมงานที่แข็งแรง การบริหารจัดการเทคโนโลยี การสร้างความอุดมสมบูรณ์ด้านระบบนิเวศของเศรษฐกิจ และการเชื่อโยงทุกข้อมูล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ จากสภาพแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ตลอดจนการแข่งขัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาองค์กรโดยการบริหารและจัดการปัจจัยดังกล่าว ซึ่งมีส่วนต่อการพัฒนาองค์กร การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการที่มีประโยชน์หรือเป็นกระบวนการสำคัญในการกำกับดูแลที่ดีสำหรับการพัฒนาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้
บริษัทได้พัฒนาระบบการบริหารความเสี่ยงตามแนวปฏิบัติสากล COSO-Enterprise Risk Management Integrated Framework (2004) ในการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร ซึ่งการบริหารความเสี่ยงจะเกิดขึ้นได้และมีคุณค่าสูงสุด เมื่อผู้บริหารและบุคลากรในองค์กรมีความเข้าใจตรงกัน มีการปฏิบัติเป็นขั้นตอน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันดังนั้นบริษัทจึงจัดทำคู่มือการบริหารความเสี่ยงขึ้น ตามบริบทของบริษัทเพื่อให้ทุกส่วนงานใช้เป็นแนวทางในการบริหารความเสี่ยงของตนเอง
นโยบายการบริหารความเสี่ยง
บริษัทได้จัดทำนโยบายการบริหารความเสี่ยง โดยกำหนดกรอบการปฏิบัติงานและกระบวนการ เพื่อใช้ในการบริหารความเสี่ยงของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทได้นำแนวทางของ The COSO Enterprise Risk Management Framework มาปรับใช้ในการระบุและประเมินความเสี่ยงของกิจกรรมทางธุรกิจที่บริษัทดำเนินการ เพื่อจัดทำแผนการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
โครงสร้างการบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee) ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย กรอบการดำเนินงาน รวมทั้งติดตาม กลั่นกรอง ให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะงานด้านการบริหารความเสี่ยงในระดับองค์กร ตลอดจนพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ของบริษัท และพิจารณาแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยงเหล่านั้น เพื่อให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ (Risk Appetite) และบริษัทฯ ได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานในฐานะเจ้าของความเสี่ยง (Risk Owner) มีหน้าที่ในการกำกับดูแลและบริหารความเสี่ยงที่อยู่ในความรับผิดชอบ
วัฒนธรรมการบริหารความเสี่ยงภายในองค์กร
บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมการบริหารความเสี่ยงภายในองค์กร (Risk Culture) โดยมีแนวทางการดำเนินการ คือ คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง จะกำหนดนโยบาย กรอบและแนวทางปฏิบัติ รวมถึงให้ข้อคิดเห็นที่สำคัญ เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานนำไปปฏิบัติ และติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงจัดให้มีการสื่อสารให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริหารความเสี่ยง องค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง การจัดการเหตุฉุกเฉิน/ภาวะวิกฤต และการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตลอดจนความเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรที่เกี่ยวกับธุรกิจ ผ่านช่องทาง Human Soft นอกจากนี้ บริษัทฯ สนับสนุนให้พนักงานมีทัศนคติและพฤติกรรมในการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมการบริหารความเสี่ยงที่ดี ดังนี้
กำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง วัตถุประสงค์ กรอบการบริหารความเสี่ยง และแนวทางการบริหารความเสี่ยง
กำหนดให้มีการนำแนวทางไปปฏิบัติ และมีการติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับคณะกรรมการ ระดับบริหาร และระดับปฏิบัติการ
จัดให้มีการสื่อสารและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริหารความเสี่ยงในองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านช่องทางต่างๆ
ในปี 2567 บริษัทได้สร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจในเรื่องการบริหารความเสี่ยงผ่านช่องทางการฝึกอบรมให้กับพนักงานในส่วนของสำนักงานใหญ่ โดยจัดให้มีการฝึกอบรมในเรื่องการบริหารความเสี่ยงให้กับพนักงานจำนวน 1 หลักสูตร และในอนาคตจะจัดให้มีการเพิ่มหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้แก่พนักงานของบริษัทฯ ต่อไป
การวิเคราะห์ การประเมิน และการบริหารจัดการความเสี่ยง
ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์
1) ความเสี่ยงด้านผลการดําเนินงานของกลุ่มบริษัท
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: เนื่องจากบริษัทฯ ประกอบธุรกิจในรูปแบบ Holding Company ที่มีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่น และมีบทบาทร่วมบริหารให้กับบริษัทที่เป็นธุรกิจหลัก ดังนั้น ที่มาของรายได้จะขึ้นอยู่กับผลประกอบการและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของบริษัทย่อย (Subsidiary) ซึ่งแหล่งที่เป็นความเสี่ยงด้านกลยุทธ์และการประกอบธุรกิจ จะมาได้จากปัจจัยภายนอกอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ และปัจจัยภายในที่เป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายของบริษัทฯ
ผลกระทบ: บริษัทฯ อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ที่มาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐ และการปรับตัวของเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เช่น อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลดลง, อัตราเงินเฟ้อสูง และความสามารถในการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลง ส่งผลกระทบต่องบประมาณทางการตลาด และการใช้งบโฆษณาชะลอตัวลง ฯลฯ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงจะเตรียมวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ และให้ผู้บริหารทุกหน่วยงานประเมินผลภาพรวมของธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นให้การดำเนินกิจการเป็นไปตามแผนงานและเป้าหมายที่กำหนดไว้ และเตรียมแผนการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ การกำหนดราคาและต้นทุนธุรกิจที่เหมาะสม เพื่อช่วยรักษาอัตราการเติบโตของกลุ่มบริษัทได้ต่อไป
2) ความเสี่ยงจากการแข่งขันของผู้ประกอบธุรกิจ
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: บริษัทฯ มีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันมีการแข่งขันจากผู้ประกอบการจำนวนมาก และยังมีปัจจัยจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงความนิยมในตัวสินค้าอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทฯ มีความเสี่ยงต่อจำนวนสินค้าที่ไม่สามารถจำหน่ายออกไปได้ทันเวลา
ผลกระทบ: การจัดหาสินค้าใหม่ไม่ทันการตลาดของคู่แข่ง มีผลทำให้บริษัทฯ เสียโอกาสทางการขาย และจะต้องมีการบริหารจัดการจำนวนสต็อคสินค้าที่หลากหลาย เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: การใช้ระบบสารสนเทศ และการใช้ข้อมูลจากการสอบถามการซื้อสินค้าของผู้บริโภค มาช่วยวิเคราะห์ความต้องการซื้อสินค้าในแต่ละช่องทาง เพื่อวางแผนการผลิตให้มีจำนวนสินค้าสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการศึกษาเทรนด์ของสินค้าในแต่ละกลุ่ม และการจัดหา Outsource ที่มีความสามารถในการผลิตสินค้าให้ได้ตามสถานการณ์
ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงาน
1) ความเสี่ยงโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะความเสี่ยงทางสภาพภูมิอากาศเชิงภายภาพ (Physical Climate Risk) ที่ทำให้ประเทศไทยประสบปัญหาจากสภาพฝนและน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่
ผลกระทบ: ระบบขนส่งเสียหายหรือถูกกีดขวางเส้นทางจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้การจัดส่งสินค้าล่าช้าส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า และส่งผลต่อสินค้าไม่มีจำหน่ายจากการขาดแคลนวัตถุดิบ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืชผลทางการเกษตร
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ ได้เพิ่มมาตรฐานการขนส่งให้สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป เพื่อลดผลกระทบการขนส่งที่ล่าช้า เช่น กรณีเกิดฝนตกน้ำท่วมในพื้นที่ปลายทาง การเลือกใช้ยานพาหนะที่สามารถส่งออกสินค้า การกำหนดระยะเวลาและจำนวนการส่งสินค้าให้มากขึ้น ติดต่อสำรองใช้บริการขนส่งภายนอก พร้อมทั้งมีการติดตามระดับปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด ในส่วนของการจำหน่ายสินค้า ก็ให้เตรียมเรื่องการใช้แหล่งวัตถุดิบให้หลากหลาย ลดการพึ่งพิงวัตถุดิบหลักอย่างใดอย่างหนึ่ง และติดต่อโรงงานภายในประเทศที่จะสามารถปรับแผนการผลิต รวมทั้งจัดหาแหล่งวัตถุดิบให้มีปริมาณที่เพียงพอและได้อย่างต่อเนื่อง
2) ความเสี่ยงด้านสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: ความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อนามัย และความปลอดภัยของพนักงาน อาทิเช่น จากการใช้รถยกของในคลังสินค้า, จากการเดินทาง การขนส่ง และจากโรคติดต่อ เป็นต้น
ผลกระทบ: ความเสียหายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานจากการทำงาน งานล่าช้าไม่เป็นไปตามกำหนดเวลา และอาจจะมีความผิดตามระเบียบปฏิบัติของ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ จัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อควบคุม ติดตาม และปรับปรุงการดูแลความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน และจัดทำ "นโยบายและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน" ให้ครอบคุมความปลอดภัยภายในอาคารสำนักงานและพื้นที่ปฏิบัติงานโดยมี “คู่มือการจัดการด้านความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน" และเกณฑ์ตรวจสอบและประเมินผลการทำงาน (Safety Checklist) ที่สอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อสื่อสารและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ลดผลกระทบจากการสูญเสียและการหยุดงาน เพื่อให้พนักงานและแรงงานทุกคนสามารถปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ด้วยเป้าหมายที่ต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน ลดอุบัติภัย มิให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและอนามัยของพนักงาน
ความเสี่ยงด้านการเงิน
1) ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ และสภาพคล่องทางการเงิน
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: จากสงครามทางภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ต่าง ๆ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย ภาวะเงินเฟ้อระดับสูงและยาวนานกว่าการคาดการณ์ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกและอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการติดต่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพื่อมาสนับสนุนกระแสเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจ
ผลกระทบ: ต้นทุนทางการเงินของบริษัทอาจจะสูงขึ้น จากเงินกู้ยืมระยะสั้น และเงินกู้ยืมระยะยาว ที่จะส่งผลกระทบสินเชื่อ เครดิตและสภาพคล่องของธุรกิจ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ จะมีการบริหารและทบทวนสัดส่วนของเงินกู้ยืมที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว และอัตราดอกเบี้ยคงที่ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืม และได้มีการกำหนดวงเงินสินเชื่อกู้ยืมร่วมกับสถาบันการเงินระดับประเทศไว้หลาย ๆ แห่ง เพื่อทำให้การหมุนเวียนทางด้านกระแสเงินสดเพียงพอที่จะสร้างสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ และเป็นไปตามแผนทางการเงินที่ได้มีการกำหนดไว้
ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ
1) ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการ
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: เนื่องจากในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยา เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และสินค้าที่เป็นอันตรายต่าง ๆ จะต้องมีฉลากที่ถูกต้อง มีสัญลักษณ์ตราเครื่องหมายที่ครบถ้วน หรือคุณสมบัติสรรพคุณเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ผลกระทบ: เพื่อไม่ให้ธุรกิจมีความเสี่ยงจากการตรวจสอบของหน่วยงานราชการ และป้องกันการถูกร้องเรียนจากผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ ชื่อเสียง และการดำเนินกิจการต่อไปของบริษัทฯ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: ฝ่าย Merchandise Marketing และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจเช็คสินค้า และการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด และให้ทำการตรวจสอบเอกสารจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการงานเอกสารให้ถูกต้องก่อนเริ่มจัดจำหน่ายสินค้านั้น ๆ รวมทั้งการสื่อสารข้อมูลภายในองค์กรกับฝ่ายขายเพื่อให้ผู้นำเสนอสินค้าสามารถสร้างความมั่นใจที่ดีให้กับผู้บริโภคได้ต่อไป
2) ความเสี่ยงจากการร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชนทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น การจ้างงาน สภาพแวดล้อมในการทำงาน การจ่ายค่าตอบแทน การใช้ความรุนแรง การข่มขู่คุกคามล่วงละเมิด การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียม การเคารพความเป็นส่วนตัว และการนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้อย่างถูกต้อง รวมทั้งการลดผลกระทบต่อชุมชนรอบข้าง
ผลกระทบ: หากไม่ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านภาพลักษณ์และชื่อเสียงของบริษัทฯ และอาจจะทำให้บริษัทถูกดำเนินคดี
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและจรรยาบรรณที่ดีในการประกอบธุรกิจ ให้พนักงานทุกคนนำไปปฎิบัติ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรมภายในองค์กร และในกรณีที่มีการกระทำผิดหรือถูกร้องเรียน บริษัทฯ กำหนดให้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรมต่อพนักงานทุกคนในทันที และสำหรับชุมชนโดยรอบบริษัทฯ ก็จัดให้มีการศึกษากิจกรรมที่จะส่งผลกระทบมีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนการจัดงานนั้น ๆ และการกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เหมาะสม หากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนในทุกกรณี
3) ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของธุรกิจที่มีกฎหมายกำหนด
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งดำเนินธุรกิจทางด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทย่อย ซึ่งในบางกิจการของกลุ่มบริษัทนั้นจะต้องมีการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมายที่ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนั้น หากมีบางธุรกิจที่ไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎระเบียบข้อบังคับนั้น ๆ ก็จะมีผลเป็นปัจจัยเสี่ยงของบริษัทหลักไปด้วย
ผลกระทบ: เกิดมูลค่าความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดี รวมถึงความเชื่อมั่นด้านภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ของบริษัทฯ ที่ลดลง
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ ได้มีการจัดทำนโยบายการควบคุมการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทและบริษัทย่อย เพื่อให้กรรมการได้มีบทบาทในการกำกับดูแลธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีการกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องศึกษาและเตรียมรับมือกับกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ และนำไปปฎิบัติปรับใช้ให้สอดคล้องกับการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ อาทิเช่น กฎหมายที่ควบคุมธุรกิจการบริการ การจำหน่ายสินค้าทางโทรทัศน์ และทางสื่อออนไลน์ เป็นต้น
4) ความเสี่ยงด้านการทุจริตและคอร์รัปชัน (Fraud and Corruption Risk Assessment)
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: กลุ่มบริษัทจะต้องมีการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนั้น จึงอาจจะมีกระบวนการทำงานในบางกรณีที่เอื้อประโยชน์ด้วยการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสารใบอนุญาตต่าง ๆ หรือเพื่อความรวดเร็ว
ผลกระทบ: ความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือกฎหมายอาจทำให้บริษัทถูกดำเนินคดี รวมถึงมีผลต่อความเชื่อมั่นด้านภาพลักษณ์ชื่อเสียงของบริษัท
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ ได้มีการประกาศใช้ นโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน เพื่อให้พนักงานทุกคนปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน และให้ตระหนักถึงความสำคัญของธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืนจะต้องได้รับความไว้วางใจจาก ลูกค้า ผู้ถือหุ้น ผู้ที่มีส่วนได้เสีย และสาธารณชน และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม และให้มีการตรวจทานเรื่องที่มีโอกาสจะโดนร้องเรียน และการติดตามเรื่องที่มีการแจ้งเบาะแสการทุจริตในทันที
5) ความเสี่ยงด้านการลงทุนของผู้ถือหลักทรัพย์
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: เป็นความเสี่ยงที่มาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ และมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในอนาคต และมีผลกระทบต่อนักลงทุนและราคาหลักทรัพย์
ผลกระทบ: ทำให้นักลงทุนไม่สามารถขายหุ้นของบริษัทได้ในทันทีตามราคาที่ต้องการ หรืออาจจะทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทน หรือเงินปันผลตามที่คาดหวังไว้
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ จะลดความเสี่ยงด้วยการสร้างความเชื่อมั่น และปฎิบัติตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์และกลต. กำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจ ในส่วนความเสี่ยงที่มาจากโครงสร้างผู้ถือหุ้น ก็ได้มีการรายงานสัดส่วนกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (ยอดรายงาน Free Float ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2567) มียอดรวมประมาณ ร้อยละ 74.01 ซึ่งมีความเหมาะสมและเป็นไปตามกฎกติกาที่ทางตลาดหลักทรัพย์กำหนด
ความเสี่ยงต่อการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
1) ความเสี่ยงทั่วไปในการลงทุนในหลักทรัพย์
สาเหตุ / ปัจจัยเสี่ยง: หน่วยงานของรัฐ สภาวะทางเศรษฐกิจ การเมืองทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมทั้งเหตุสุดวิสัยอื่นที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สงคราม ภัยพิบัติ หรือการก่อเหตุจลาจล เป็นต้น อาจส่งทำให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงต่อตลาดและราคาของหลักทรัพย์นั้น
ผลกระทบ: ทำให้หลักทรัพย์ต่างประเทศเกิดความผันผวนทางด้านราคาและปริมาณการซื้อขายในตลาด นำมาซึ่งความไม่แน่นอนของผลตอบแทนหรือเงินปันผลของหลักทรัพย์นั้น รวมทั้งการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวในราคาและปริมาณที่บริษัทฯ ต้องการหรือพึงพอใจ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯมีนโยบายในการทบทวน เปรียบเทียบมูลค่าคงเหลือกับมูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ต่างประเทศดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการติดตามสถานการณ์ ข่าวสาร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในการลงทุน รวมทั้งแผนการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงด้วย
2) ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับภาวะตลาดของหลักทรัพย์
สาเหตุ / ปัจจัยเสี่ยง: ตลาดที่หลักทรัพย์ต่างประเทศนั้นทำการซื้อขายหรือจดทะเบียน อาจอยู่ภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ รวมทั้งขนาดของตลาดที่แตกต่างไปจากประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนทางด้านราคา ปริมาณการซื้อขาย รวมทั้งสภาพคล่องของหลักทรัพย์นั้น
ผลกระทบ: กฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือขนาดของตลาด อาจส่งผลต่อความสามารถของบริษัทฯ ในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าว ในราคาหรือปริมาณที่ต้องการหรือน่าพึงพอใจ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯมีนโยบายในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ต่างประเทศในตลาดที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่นิยม และมีการซื้อขายมาเป็นเวลานาน
3) ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน
สาเหตุ / ปัจจัยเสี่ยง: การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศมีการชำระเงินเป็นเงินตราต่างประเทศ ราคาและผลตอบแทนของหลักทรัพย์ดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจเกิดขึ้นแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือเกิดขึ้นอย่างถาวร
ผลกระทบ: บริษัทฯ อาจไม่ได้รับผลตอบแทนหรือเงินปันผลจากหลักทรัพย์ต่างประเทศดังกล่าวตามที่ต้องการ รวมทั้งมูลค่าที่ลดลงของของหลักทรัพย์นั้นเอง หากเงินไทยอ่อนค่าลง
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ ใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) สัญญาสิทธิในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Currency Option) หรือสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Currency Swap) เพื่อสามารถกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตไว้ล่วงหน้า และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ในระดับหนึ่ง
แนวทางการจัดการความเสี่ยงด้านความยั่งยืน
1. ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Risk)
ความเสี่ยงโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะความเสี่ยงทางสภาพภูมิอากาศเชิงภายภาพ (Physical Climate Risk) ที่ทำให้ประเทศไทยประสบปัญหาจากสภาพฝนและน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ ให้ระบบขนส่งเสียหายหรือถูกกีดขวางเส้นทางจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้การจัดส่งสินค้าล่าช้าส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า และส่งผลต่อสินค้าไม่มีจำหน่ายจากการขาดแคลนวัตถุดิบ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืชผลทางการเกษตร
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ ได้เพิ่มมาตรฐานการขนส่งให้สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป เพื่อลดผลกระทบการขนส่งที่ล่าช้า เช่น กรณีเกิดฝนตกน้ำท่วมในพื้นที่ปลายทาง การเลือกใช้ยานพาหนะที่สามารถส่งออกสินค้า การกำหนดระยะเวลาและจำนวนการส่งสินค้าให้มากขึ้น ติดต่อสำรองใช้บริการขนส่งภายนอก พร้อมทั้งมีการติดตามระดับปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด ในส่วนของการจำหน่ายสินค้า ก็ให้เตรียมเรื่องการใช้แหล่งวัตถุดิบให้หลากหลาย ลดการพึ่งพิงวัตถุดิบหลักอย่างใดอย่างหนึ่ง และติดต่อโรงงานภายในประเทศที่จะสามารถปรับแผนการผลิต รวมทั้งจัดหาแหล่งวัตถุดิบให้มีปริมาณที่เพียงพอและได้อย่างต่อเนื่อง
2. ความเสี่ยงด้านสังคม (Social Risk)
ความเสี่ยงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน
บริษัทฯ มุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงานของบริษัทเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มจากการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยบริษัทได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับแนวทางสากลตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGP) และปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labor Organization : ILO) รวมถึงกฎหมายแรงงานของแต่ละประเทศที่บริษัทประกอบธุรกิจ
จากการขาดแคลนแรงงานในการรับบุคลากร เนื่องจากภาวะการแข่งขันของตลาดแรงงานที่มีฝีมือค่อนข้างสูง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของประชากรโลกที่กำลังเข้าสู่ยุค Aging Society ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้สร้างแรงจูงใจ โดยการมอบสวัสดิการและผลตอบแทนที่เหนือกว่าคู่แข่ง พร้อมกับการจัดทำ career Path ที่ชัดเจน นอกจากนี้ บริษัทฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัย เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามาฝึกงานในหลายหน่วยงาน เพื่อเป็นการชักชวนผู้ที่สนใจและมีศักยภาพเข้ามาร่วมงานกับบริษัทฯ
3. ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ (Compliance Risk)
ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: เนื่องจากในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยา เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และสินค้าที่เป็นอันตรายต่าง ๆ จะต้องมีฉลากที่ถูกต้อง มีสัญลักษณ์ตราเครื่องหมายที่ครบถ้วน หรือคุณสมบัติสรรพคุณเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ผลกระทบ: เพื่อไม่ให้ธุรกิจมีความเสี่ยงจากการตรวจสอบของหน่วยงานราชการ และป้องกันการถูกร้องเรียนจากผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ ชื่อเสียง และการดำเนินกิจการต่อไปของบริษัทฯ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: ฝ่าย Merchandise Marketing และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจเช็คสินค้า และการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด และให้ทำการตรวจสอบเอกสารจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการงานเอกสารให้ถูกต้องก่อนเริ่มจัดจำหน่ายสินค้านั้น ๆ รวมทั้งการสื่อสารข้อมูลภายในองค์กรกับฝ่ายขายเพื่อให้ผู้นำเสนอสินค้าสามารถสร้างความมั่นใจที่ดีให้กับผู้บริโภคได้ต่อไป
ความเสี่ยงในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (Personal Data Protection Act, PDPA) ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 หลังจากที่ถูกเลื่อนออกมาให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินการประกาศบังคับใช้เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของบริษัทฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทหลายกลุ่ม ได้แก่ ลูกค้า ร้านค้า คู่ค้า พนักงาน เป็นต้น และเกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัทฯ ในหลายหน่วยงาน หลายสถานที่ตั้ง ทำให้อาจเกิดการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนตามมาตรการที่กำหนดไว้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวและขออนุญาตใช้ข้อมูลการดำเนินการตอบสนองตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล การจัดการเมื่อเกิดการรั่วไหลของข้อมูล เป็นต้น
แนวทางการป้องกัน บริษัทฯ ได้แต่งตั้งทีมทำงานและตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ ให้รับผิดชอบในการทบทวนกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การได้มา การจัดเก็บ การนำไปใช้การโอนย้าย และการทำลายข้อมูล เป็นต้น เพื่อกำหนดมาตรการดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายกำหนด รวมทั้งรับผิดชอบในการสื่อสาร ให้ความรู้ และกำกับการปฏิบัติของบุคลากรในสังกัดให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือในหลายขั้นตอนที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อลดโอกาสเกิดความผิดพลาดจากการปฏิบัติงานของบุคลากร
4. ความเสี่ยงด้านบริหารจัดการ
ความเสี่ยงจากการแข่งขันของผู้ประกอบธุรกิจ
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: บริษัทฯ มีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันมีการแข่งขันจากผู้ประกอบการจำนวนมาก และยังมีปัจจัยจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงความนิยมในตัวสินค้าอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทฯ มีความเสี่ยงต่อจำนวนสินค้าที่ไม่สามารถจำหน่ายออกไปได้ทันเวลา
ผลกระทบ: การจัดหาสินค้าใหม่ไม่ทันการตลาดของคู่แข่ง มีผลทำให้บริษัทฯ เสียโอกาสทางการขาย และจะต้องมีการบริหารจัดการจำนวนสต็อคสินค้าที่หลากหลาย เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: การใช้ระบบสารสนเทศ และการใช้ข้อมูลจากการสอบถามการซื้อสินค้าของผู้บริโภค มาช่วยวิเคราะห์ความต้องการซื้อสินค้าในแต่ละช่องทาง เพื่อวางแผนการผลิตให้มีจำนวนสินค้าสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการศึกษาเทรนด์ของสินค้าในแต่ละกลุ่ม และการจัดหา Outsource ที่มีความสามารถในการผลิตสินค้าให้ได้ตามสถานการณ์
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk)
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่
1) ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในยุคที่มีการใช้ AI ในธุรกิจ
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: Artificial Intelligence ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เริ่มมีการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยี AI ในธุรกิจระดับต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นบริษัทฯ จะต้องมีการเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่เหล่านี้ และหน่วยงานที่นำข้อมูลจาก AI มาใช้ในการทำธุรกิจ จะต้องมีความระมัดระวัง ในกรณีที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจาก AI
ผลกระทบ: การพึ่งพาระบบ AI อาจนำไปสู่การสูญเสียการควบคุมและความเข้าใจในกระบวนการตัดสินใจที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ด้านการเงิน ฯลฯ และ อัลกอริทึม AI สามารถขยายการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ยากต่อการควบคุม และอาจเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล จากการนำข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากไปประมวลผล และถูกนำไปจัดการในทางที่ผิด
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: การวางแผนการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ โปร่งใส และคำนึงถึงจริยธรรม รวมทั้งติดตามกฎหมายและแนวปฏิบัติของการใช้ AI อย่างใกล้ชิด ดูแลพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยภายในองค์กร เพื่อป้องกันการนำ AI ไปใช้ ผิดพลาดที่อาจส่งผลต่อชื่อเสียงขององค์กร ขณะเดียวกันก็จะต้องช่วยบรรเทาผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นต่อสังคมด้วย
2) ความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง: ปัจจุบันบริษัทฯ ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการปฏิบัติงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การใช้บริการคลาวด์จัดการฐานข้อมูลลูกค้า ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงหากระบบมีปัญหาหรือเกิดการรั่วไหลของข้อมูล ในขณะที่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยียังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว การโจมตีทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนโดย AI รวมถึง มัลแวร์และฟิชชิ่งที่สร้างโดย AI อาจมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ยากต่อการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์
ผลกระทบ: ความเสียหายจากการโจมตีระบบสารสนเทศ เป็นความเสี่ยงที่ทำให้การปฏิบัติงานไม่ต่อเนื่อง และยังอาจจะกระทบต่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนั้นการรั่วไหลข้อมูลทางธุรกิจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค มีความเสี่ยงต่อความสามารถในการแข่งขัน และมีผลต่อความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ชื่อเสียงของบริษัทฯ
แนวทางการบริหารและควบคุมความเสี่ยง: บริษัทฯ ได้มีการกำหนดคณะทำงานสำหรับ การปฏิบัติและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบสารสนเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์บรรเทาความเสียหาย ดังนี้ ระบบปฏิบัติการด้านสารสนเทศ ได้มีการบริหารจัดการระบบโทรศัพท์ เพื่อให้สามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ ระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับกรณีไฟดับ โดยจะมีการติดตั้งอุปกรณ์สำรองไฟ ที่จะไม่ทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงัก ด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ได้แก่ การกำหนดสิทธิและลำดับสิทธิในการดำเนินงานและการเข้าถึงข้อมูล การปรับปรุงระบบที่ใช้งานให้เป็นระบบปัจจุบัน การตรวจสอบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ การทดสอบศูนย์ข้อมูลสำรองเป็นประจำ เพื่อรองรับวิกฤตหากระบบปฏิบัติการหลักไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ ยังได้มีการสร้างความตระหนักในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ปลอดภัย ตรวจสอบหากมีผู้ไม่ประสงค์ดีทางไซเบอร์ และจัดให้มีการทบทวนนโยบายความปลอดภัยด้านเทคโนโลยี่สารสนเทศเป็นประจำทุกปี รวมถึง การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกคนในองค์กรนำไปปฏิบัติ
แผนดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan)
การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management - BCM)
บริษัทฯ มีการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ภายใต้กรอบการดำเนินงานตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อเตรียมการรับมือหากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น กรณีเกิดภัยธรรมชาติ ภัยจากมนุษย์ ภัยด้านสาธารณูปโภค ภัยด้านเทคโนโลยี หรือเหตุการณ์ความผิดพลาดต่าง ๆ ที่ไม่อยู่ในความควบคุม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบให้เกิดการหยุดชะงักของการปฏิบัติงาน และอาจก่อให้เกิดความสูญเสียหรือเสียหายต่อทรัพย์สินและบุคลากร
บริษัทฯ ได้มีการจัดทำแผนดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องสำหรับการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต (Business Continuity Plan: BCP) และกำหนดให้มีคณะบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต ที่ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของแต่ละสายงาน โดยมีประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นประธาน มีหน้าที่รับผิดชอบและมีอำนาจตัดสินใจในช่วงสภาวะวิกฤต ตั้งแต่การตอบสนองต่อสถานการณ์ รวมถึงกำกับดูแลให้มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่จำเป็นทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างถูกต้องเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ เพื่อให้การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและยั่งยืน